Agent คอนโดโกง เช็คให้ชัวร์เช่าและซื้อคอนโดยังไงไม่ให้โดนหลอก

โดนโกงค่ามัดจำคอนโดโดยมิจฉาชีพหลอกเงินโอนผู้เช่า-ซื้อโดยแอบอ้างเป็น agent คอนโดโกง มีวิธีเช็คเอเจ้นท์คอนโดโกงช่องทางไหนบ้าง มีวิธีการสังเกต ป้องกันและคัดเลือกAgentอย่างไร เมื่อโดนโกงค่ามัดจำคอนโดแล้วให้ทำยังไง

ปัจจุบันมิจฉาชีพเป็นภัยแฝงอยู่ในทุกวงการ ในเคสอสังหาอย่างคอนโดก็มีหลายเคส เช่น

1. มาทำทีขอซื้อคอนโดโดยไม่ดูห้อง โดยจุดประสงค์คือขอแลกเงินจากเงินต่างประเทศโดยจะให้โอนเงินปลายทางมาที่นายหน้า แล้วให้นายหน้าโอนให้คนรู้จักที่ไทยต่ออีกที โดยมิจฉาชีพจะส่ง Slip โอนเงินปลอมมาให้ หรือขอแลกผ่าน Crypto แลกพวก USDT/BTC ให้ราคาสูงกว่าตลาด
2. ทักมาคุยเรื่องจะซื้อคอนโด แล้วก็ชวนคุยเรื่องอื่นและตัดบทสุดท้ายไปที่ชวนคุยเรื่องลงทุน หรือขอยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยผลตอบแทนสูง
3. มิจฉาชีพส่ง SMS ปลอมเป็นธนาคารหรือหน่วยงานต่างๆ โดยแนบลิงก์ปลอมมาให้คลิก เพื่อหลอกให้ดาวน์โหลดแอป หรือหลอกให้แอดไลน์ปลอม

วิธีเช็ค Agent คอนโดโกง

1. เช็คคนโกงจากเว็บไซต์ blacklistseller.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่เช็คคนฉ้อโกงผ่านช่องทางออนไลน์ โดยไปที่ตรวจสอบบัญชีแล้วเลือกใส่ข้อมูล เช่น เลขบัญชีธนาคาร เบอร์โทรศัพท์ ชื่อหรือนามสกุล(ถ้ามีการเปลี่ยนชื่อนามสกุลอาจเช็คไม่ได้) เลขบัตรประชาชน อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ตามสะดวก ถ้าระบบขึ้นรายละเอียดแปลว่ามีคนเคยแจ้งข้อมูลการโกงแล้ว
2. เช็คคนโกงจากช่องค้นหาใน Facebook โดยพิมพ์ชื่อนามสกุลลงไป ถ้ามีผู้ประสบภัยโพสต์แจ้งเตือนในกลุ่มเฟสบุ๊กต่างๆ เราจะพบข้อมูลมิจฉาชีพจากการทำซ้ำๆ
3. เช็คคนโกงจากเบอร์โทรศัพท์โดยแอปพลิเคชั่นยอดนิยมในการเช็คมิจฉาชีพ มีดังนี้ Whoscall, Call Blocker และ Truecaller เป็นต้น
4. เช็คคนโกงจากโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ เช่น X (Twitter) Pantip หรือพิมพ์ข้อมูลข้อหาใน Google ก็ได้ แล้วดูผลลัพธ์การพูดถึงถ้ามี

วิธีสังเกตมิจฉาชีพสำหรับผู้เช่าเพื่อไม่ให้โดนโกงค่ามัดจำคอนโด

ปัญหา โดนโกงค่ามัดจำคอนโด มีวิธีสังเกตคนแอบอ้างเป็นเจ้าของห้องหรือเอเจ้นท์เพื่อหลอกโอนเงินยังไงบ้าง เรารวบรวมจากประสบการณ์ที่เคยพบหรือได้ยินมา ซึ่งเราจะมาแชร์ข้อมูลเคสให้ท่านทราบ ถึงวิธีการสังเกตมิจฉาชีพหลอกผู้เช่าโอนเงินแล้วหายตัวไป

1. มิจฉาชีพโดยมากมักจะติดต่อสนใจเพื่อเช่าห้องระยะสั้น
2. มิจฉาชีพมักไม่ต่อราคา หรือถามรายละเอียดห้อง ไม่ขอดูรูปอะไรมากมาย
3. มิจฉาชีพมักไม่นัดเอเจนต์เพื่อขอดูห้องก่อนตัดสินใจ
4. มิจฉาชีพมักไม่จ่ายมัดจำจอง แค่อยากคอนเฟิร์มว่าห้องว่างอยู่จริง และสามารถเข้าถึงห้องได้
5. มิจฉาชีพมักต้องการรีบเช่ามากเป็นพิเศษ ไม่ว่างเจอเจ้าของห้องชุด

โดยคนที่แอบอ้างเมื่อได้รับข้อมูลต่างๆเสร็จจะเริ่มทำการโฆษณาว่ามีห้องเช่าราคาถูก ตึกนี้ ทำเลนี้ ห้องนี้ โดยอ้างว่าเป็นเอเจ้นท์หรืออ้างว่ารู้จักกับเจ้าของห้องเป็นอย่างดี เมื่อมีผู้สนใจที่ตกเป็นเหยื่อยอมนัดวันเพื่อมาดูห้องจริงเพื่อตัดสินใจเช่า มิจฉาชีพจะสบโอกาสเบิกกุญแจห้อง(เฉพาะห้องที่เจ้าของฝากกุญแจไว้ที่นิติ)แล้วให้ผู้เช่าโอนเงินจองมัดจำเอาไว้ที่บัญชีของคนแอบอ้างหลังดูห้องเสร็จ

ซึ่งผู้แอบอ้างบางรายอาจมีสัญญาให้ผู้เช่าเซ็นต์อีกด้วยเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งผู้เช่าจะทราบเรื่องเมื่อรู้ชื่อเจ้าของห้องจากนิติโครงการ โดยเมื่อมิจฉาชีพได้เงินไปก็จะหายตัว ติดต่อไม่ได้ ทำให้ผู้เช่าเสียเงินไปฟรีๆ

วิธีแก้ปัญหาโดนโกงค่ามัดจำคอนโดสำหรับผู้เช่า

• ตรวจสอบราคาปล่อยเช่าของโครงการคอนโดที่สนใจ ไม่ควรถูกมากเกินไป
• ควรเข้าไปดูคอนโดด้วยตัวเอง ถ้าไม่สะดวกก็วีดีโอคอลชมห้อง
• ขอสำเนาบัตรประชาชนของผู้อ้างว่าเป็นเอเจ้นท์ปล่อยเช่าคอนโด และเจ้าของห้อง หรืออาจจะเป็นบัตรตัวแทนนายหน้า
• สอบถามนิติบุคคลคอนโดว่ามีการอนุญาตให้ปล่อยเช่าระยะสั้นต่ำกว่า3หรือ6เดือน จริงหรือไม่
• ตรวจสอบชื่อเจ้าของห้องโดยเช็คชื่อในสัญญากับนิติบุคคลคอนโดนั้นนั้น
• ต้องทราบได้ว่าเจ้าของห้องเป็นคนเซ็นต์สัญญาเช่าเท่านั้นจึงจะโอนค่าเช่าให้(ตรวจหลังฐานจากสำเนาบัตรประชาชนเจ้าของห้องในสัญญา)
• ต้องโอนเงินค่าเช่าเข้าบัญชีเจ้าของห้องเท่านั้น

วิธีแก้ปัญหาโดนโกงค่ามัดจำคอนโดสำหรับเจ้าของห้อง

• เจ้าของห้องต้องแจ้งเตือนนิติคอนโดว่าห้ามไม่ให้ใครมาเบิกกุญแจ ถ้าไม่ได้มีเจ้าของห้องยืนยันก่อน หรือต้องมีการนัดหมายโดยเจ้าของห้องล่วงหน้า รวมถึงห้ามไม่ให้ใครมาขอย้ายของเข้าห้องโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของห้อง
• ติดแอปพลิเคชั่นสำหรับตรวจเช็คค่าน้ำค่าไฟ ดูว่ามีการใช้น้ำและไฟเป็นยังไงบ้าง
• เก็บค่าเช่าล่วงหน้า 1 เดือน เก็บค่ามัดจำล่วงหน้า 2 เดือน ไม่มีต่อรอง
• คัดกรองประวัติผู้เช่า โดยการสืบประวัติการพักอาศัยที่เดิม(ติดต่อเจ้าของห้องเดิมเพื่อพูดคุย) ประวัติอาชญากรรมจากตำรวจ ประวัติเครดิตบูโรจากธนาคาร ประวัติการทำงานจากสถานที่ทำงานต้นสังกัด เหตุผลการมาพักอาศัย และเบอร์คนสนิทเพื่อติดต่อฉุกเฉิน(เช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่านแอพพคลิเคชั่น)

วิธีป้องกัน Agent คอนโดโกง สำหรับผู้เช่า

1. ขอดูสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด(อ.ช.2)หรือสำเนาโฉนดคอนโดจากเจ้าของ
2. ขอดูบิลค่าน้ำค่าไฟว่าชื่อตรงกับโฉนดและบัญชีที่จะโอนค่ามัดจำกับค่าเช่าล่วงหน้าให้ไหม
3. ขอดูสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของห้องชุด
4. เช็คข้อมูลชื่อของบัญชีที่จะโอนจากเว็บblacklistหรือช่องทางโซเชี่ยลมีเดีย รวมทั้งเบอร์ของคนที่เป็นนายหน้าให้เช็คจากแอปเช็คเบอร์มิจฉาชีพ
5. ถ้าเป็นไปได้ให้นัดเจอหน้ากันก่อนโอนแล้วถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน

เมื่อโดนโกงค่ามัดจำคอนโดแล้วให้ทำยังไง

วิธีเอาเงินคืน คือ แจ้งความดำเนินคดีให้เร็วที่สุดเพราะคดีมีอายุความ 3 เดือนเท่านั้น โดยให้แจ้งความจับดำเนินคดี ห้ามแจ้งเพื่อแค่ลงบันทึกประจำวันเท่านั้น โดยใช้เอกสาร ดังนี้

• ภาพของคนโกง
• โพสต์ที่ประกาศเช่า(ควรมีลิ้งก์ URL ติดมาด้วย)
• แชทข้อความการพูดคุย
• บัญชีธนาคารที่โอนเงินไป
• สลิปการโอนเงิน

เมื่อทางเจ้าหน้าที่ลงบันทึกประจำวันแล้วจะออกหนังสือตรวจสอบรายการเดินบัญชี(สเตทเม้น)ไปยังธนาคาร มาประกอบสำนวนการสอบสวน จากนั้นให้นำเอกสารจากตำรวจเพื่อไปขออายัดบัญชี

จากนั้นให้ไปธนาคารแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าต้องการเงินคืน เจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารมาให้กรอกตามบอกโดยอย่าลืมระบุว่าต้องการเงินคืน ธนาคารจะทำการอายัดบัญชีของผู้กระทำผิดโดยผู้กระทำผิดจะไม่สามารถทำธุรกรรมการเงินได้เลยแม้แต่ธนาคารเดียว จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ธนาคารจะช่วยติดตามเอาเงินคืนและเอาผิดกับมิจฉาชีพ

โดยถ้าแจ้งความเพิ่มเติมในคดี พรบ.คอมพิวเตอร์ ในข้อหานำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์จะเป็นคดีอาญาที่มีโทษสูงและยอมความกันไม่ได้

ข้อควรระวังไม่ให้โดนมิจฉาชีพหลอกซื้อคอนโด

1. ไม่มีการเบิกเงินค่าดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าเสียเวลา ค่ารถ โดยagentจะได้รับเงินเมื่อทำสัญญาซื้อขายได้หรือมีการโอน ณ กรมที่ดินแล้วเท่านั้น มิจฉาชีพจะทำทีขายไม่ได้และอาจจะเบิกเงินแล้วติดต่อไม่ได้เลยก็ได้
2. เรื่องการตรวจวัดที่ดิน(กรณีซื้อขายที่ดิน)ไม่ควรให้ตัวแทนจัดการเองเจ้าของต้องเป็นคนไปนำเดินการด้วยตัวเอง
3. ถ้ามีผู้ซื้อตกลง เจ้าของควรไปจัดการเรื่องค่าโอนด้วยที่กรมที่ดินหรืออาจจะไปเจอตัวผู้ซื้อ ถ้าไม่มีเวลาจริงๆก็ควรทำเป็นแคชเชียร์เช็คระบุชื่อ
4. ไม่ทำสัญญาปิด โดยถ้ามีคนซื้อให้ราคาดีที่สุดจากใครก็เลือกใช้คนนั้น
5. ห้ามเอาโฉนดตัวจริงไปให้กับนายหน้า ให้เจ้าของเก็บไว้จนกระทั่งวันโอน ณ กรมที่ดิน ต่อหน้าพนักงาน

การใช้รูปซ้ำๆในประกาศคอนโดถือเป็นมิจฉาชีพที่ควรระวังไหม?

การใช้รูปซ้ำๆแต่ราคาปล่อยเช่าต่างกันเกิดได้จากสาเหตุที่พบบ่อยๆ คือ เจ้าของห้องใช้หลายเอเจ้นท์ในการปล่อยห้องหรือบางทีก็ปล่อยเองด้วย เพื่อให้ปล่อยห้องได้เร็วขึ้น ดังนั้นagencyแต่ละเจ้าก็อาจจะเลือกช่วงราคาที่เจ้าของเสนอเพื่อปล่อยเช่าไม่เหมือนกันขึ้นกับดุลยพินิจ

หรือาจจะเป็นกรณีที่เจ้าของห้องชุดมีห้องในโครงการหลายห้องที่มีเลย์เอ้าท์คล้ายหรือเหมือนกัน บางทีห้องมีคนเช่าหรือซื้อไปแล้วแต่ลืมอัพเดทโพสต์ของประกาศแล้วประกาศยังไม่หมดอายุก็เป็นสาเหตุนึงที่ไม่ใช่การโดนมิจฉาชีพหลอกซื้อหรือเช่าคอนโด

วิธีเช็คกรณีมีโพสต์ประกาศที่มีรูปซ้ำกันเยอะๆ

1. เอารูปไปหา Google ว่ามีซ้ำกี่ที่ และดูว่าที่ไหนอัพเดทอย่างไรบ้าง?
2. ทักไปถามเจ้าของห้องหากโพสต์ที่เราเจอเป็นโพสต์ของ Owner
3. ทักไปถามเอเจ้นท์ว่าเราเจอโพสต์ซ้ำ มีห้องปล่อยอยู่ไหม มีคนได้ไปยัง?

ข้อควรระวังกรณีโพสต์ประกาศซ้ำเยอะๆ

หากมีการเร่งให้รีบโอนเงินจอง ห้องใกล้หมด ควรหลีกเลี่ยงหากยังไม่เห็นเอกสาร ที่จะยืนยันได้ว่าเจ้าของห้องรับรู้การจองนี้แล้วซึ่งส่วนใหญ่ในกรณีเช่าผู้เช่าจะโอนตรงให้เจ้าห้องโดยตรงแล้วเจ้าของห้องจึงจะโอนค่าคอมให้เอเจ้นท์

หรือถ้าตรวจว่าบัญชีที่โอนเงินไปคือบัญชีเจ้าของห้องจริงๆ มีชื่อในใบเสร็จค่าน้ำค่าไฟตรงกับชื่อเจ้าของห้องในหน้าบัญชีรับโอน ตรงกับชื่อในสัญญาเช่าและสำเนาโฉนดห้องชุดกับบัตรประชาชนจะถือว่าโอเค

เลือกยังไงไม่ให้โดนAgentคอนโดโกง

วิธีหรือหลักการหรือหลักเกณฑ์การคัดเลือกเอเจ้นท์คอนโดเพื่อไม่ให้โดนหลอก มีอะไรบ้าง

1. เช็คประวัติการอบรมในสถาบันสอนนายหน้าที่น่าเชื่อถือ และ ใบประกอบวิชาชีพนายหน้า
2. เช็คผลงานที่ผ่านมาว่าเคยผ่านงานมามากน้อยแค่ไหน
3. สอบถามขอบข่ายงานที่เอเจ้นท์ต้องรับผิดชอบว่ามีอะไรบ้าง ดูเงื่อนไขต่างๆให้ละเอียด
4. สอบถามค่าบริการก่อนใช้งานว่ามีส่วนไหนบ้าง จ่ายเมื่อไหร่
5. สอบถามให้แน่ใจว่าจะทำสัญญาเปิดหรือปิด ถ้าเป็นสัญญาปิดมีเวลาการดำเนินการเท่าไหร่ มีช่องทางอะไรที่น่าเชื่อถือว่าจะขายได้ และขายได้อย่างไร พิเศษกว่าเจ้าอื่นอย่างไร